รู้จักลูกค้าสายเปย์ด้วยวงจรความเป็นลูกค้า

"CRAFT LAB: Make every technology commercialised"

LinkFacebookLinkYouTube

รู้จักลูกค้าสายเปย์ด้วยวงจรความเป็นลูกค้า

ผศ.ดร. ปารเมศ วรเศยานนท์ 

บัณฑิตวิทยาลัยการจัดการและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี 

ไฮไลท์

วงจรความเป็นลูกค้าคืออะไร

วงจรความเป็นลูกค้า (Customet life cycle) เป็นระดับพัฒนาการความเป็นลูกค้าจากการลงทุนในกิจกรรมทางการตลาดของผู้ประกอบการ โดยระดับการพัฒนาการความเป็นลูกค้าประกอบด้วย 4 ระดับ

รู้จักลูกค้าจากวงจรความเป็นลูกค้าทำยังไง

จากการเข้าใจวงจรความเป็นลูกค้า หากต้องการที่จะเข้าใจลูกค้าของตนเองว่าเป็นอย่างไรอยู่สถานะไหน อาจจะต้องใช้ตัววัดประเมินระดับความเป็นลูกค้า โดยสามารถวัดประเมินตามระดับการพัฒนาได้ดังนี้

หมายเหตุ: หากต้องการวิเคราะห์ต่อถึงประสิทธิภาพการใช้เงินลงทุนทางการตลาด (MROI) ณ จุดนี้สามารถวิเคราะห์ได้จาก จำนวนของผู้สนใจสินค้าหรือบริการที่ได้รายชื่อมา ต้นทุนต่อการได้มาของของผู้สนใจสินค้าหรือบริการที่ได้รายชื่อมา (Cost per lead) ร้อยละของของผู้สนใจสินค้าหรือบริการที่ได้รายชื่อมาต่อจำนวนผู้ซื้อจริง (Lead conversion) ต้นทุนต่อผู้ซื้อจริง (Cost per acquisition)

ลูกค้าสายเปย์อยู่ตรงไหน

ลูกค้าสายเปย์ของผู้ประกอบการหลังจากประเมินด้วยวงจรความเป็นลูกค้าก็จะเป็นกลุ่มในระดับที่ 3 (ลูกค้าที่ยังซื้อหรือใช้บริการ) และ 4 (การเป็นลูกค้าที่มีความผูกพันธ์) ซึ่งผลการวิเคราะห์จะทำให้ท่านเข้ามาสนใจกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ให้มากมาก เพราะจะเป็นแหล่งรายได้ที่ยั่งยืน

ข้อควรพิจารณาอื่นในการทำความเข้าใจระดับลูกค้าและการวัดประเมิน

แนวคิดการวัดประเมินประสิทธิภาพทางการตลาด

การวัดประสิทธิภาพทางการตลาดนั้นพิจารณาจากผลตอบแทนจากการลงทุนทางการตลาด ซึ่งจะมาในีูปเชิงปริมาณ (ผลตอบแทนต่อรายได้) หรือเชิงคุณภาพ (การเตรียมความพร้อมทางการตลาดและการตอบสนองต่อลูกค้า) สำหรับการประเมินประสิทธิภาพทางการตลาดเชิงคุณภาพนั้นขอไม่กล่าวในส่วนนี้ 

สำหรับการวัดประสิทธิภาพทางการตลาดด้านผลตอบแทนจะสามารถวัดได้จาก 2 ตัวชี้วัดสำคัญได้แก่ 

กระบวนการในการวัดประเมินและทำความเข้าใจระดับลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ 

กระบวนการในการวัดประเมินและทำความเข้าใจระดับลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพประกอบด้วย 3 ขั้นตอนได้แก่ 

เครื่องมือในการเก็บข้อมูลเพื่อให้ประเมินและเข้าใจลูกค้าในแต่ละสถานะ

เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเพื่อประเมินและเข้าใจลูกค้าในแต่ละสถานะนั้น มาจาก (1) ข้อมูลการขายในอดีต และการใช้เครือมือดิจิทัลในการเก็บข้อมูล เช่น

การเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนท่างการตลาด

การเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนทางการตลาดโดยการสังเคราะห์ผลจากการวัดประเมินวงจรการเป็นลูกค้าเพื่อนำมาปรับปรุงประสิทธิภาพแล้วนั้น (ผลตอบแทนจากการลงทุนรวมทางการตลาด) ยังมีเทคนิคอื่นอีกที่สามารถเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนทางการตลาดได้ อันได้แก่

หากมีข้อคิดเห็นหรือเสนอแนะใดๆ ทักมาคุยกัหรือแอดมาเป็นเพื่อนกันที่ https://www.facebook.com/kmuttentrepreneurship/ 


หลักสูตรการจัดการการเป็นผู้ประกอบการเชิงนวัตกรรม (#EPM) เป็นหลักสูตรภายใต้การกำกับดูแลของบัณฑิตวิทยาลัยการจัดการและนวัตกรรม (#GMI) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (#KMUTT)


สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ (02) 470-9795-6, 084-676-5885

LINE : @GMIKMUTT

หรือ ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://gmi.kmutt.ac.th/master_program

สนใจสมัครได้ที่ https://bit.ly/GMI_Apply 

#GMI #KMUTT #EPM

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง

สำหรับท่านที่ต้องการต่อยอดความรู้ระดับ 'ปริญญาโท' ด้านความเป็นผู้ประกอบการนวัตรกรรมสามารถคลิกที่นี่เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม

เพิ่มเราเป็นเพื่อนในเฟสบุ๊คเพื่อรับข่าวสารและข้อมูลต่อยอดความเข้าใจ

[กดที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อน]

เรื่องที่น่าสนใจอื่น