สร้างเนื้อหาด้วย 'การเกาะกระแส' 

"CRAFT LAB: Make every technology commercialised"

LinkFacebookLinkYouTube

สร้างเนื้อหาด้วย 'การเกาะกระแส' 

ผศ.ดร. ปารเมศ วรเศยานนท์ 

บัณฑิตวิทยาลัยการจัดการและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี 

แนวคิด

การสร้างเนื้อหาด้วย 'การเกาะกระแส' เป็นการนำกระแสที่สังคมกำลังพูดถึงมาเชื่อมโยงกับแบรนด์อย่างสมดุลย์และกลมกลืน (ต้องเชื่อมและกลมกลืน) เช่น จากกระแสการฆ่าเสือดำ อาจจะสร้างเนื้อหา "ไม่ต้องออกล่า 10 ร้าน อาหารป่ก็กินได้ไม่ผิดกฎหมาย"


สถานการณ์ในการใช้งาน

เน้นพัฒนาเนื้อหาออนไลน์สำหรับสื่อออนไลน์ที่จะนำไปสู่การให้ข้อมูลเพิ่มเติมในเว็บไซต์ ดังนั้นจึงนะเน้นเพิ่มยอดไลค์ ยอดแชร์ และสร้างสีสัน 


กระบวนการในการคิด

กระบวนการคิดประกอบด้วย 3 ขั้นตอน ดังนี้

(1) การระบุกลุ่มผู้รับสารที่ชัดเจน 

(2) เสาะหาและจับกระแส โดยพิจารณาถึงกระแสที่คนในกลุ่มเป้าหมายพูดถึง พิจารณาว่ากระเสนี้เข้ากับบุคลิกของแบรนด์เราหรือไม่ และเราเข้าไปเล่นทันหรือไม่ (หรือเอาท์ไปแล้ว)

(3) ชัดเจนเรื่อง'สิ่งที่ต้องการสื่อ' ในมิติของแบรนด์หรือ/และสินค้า โดยเน้นต้องระบุจุดเด่นสินค้า บุคคลิกของแบรนด์ (เทียบกับคนยแล้วแบรนด์นี้มีบุคลิกและนิสัยอย่างไร) และสินค้าหรือแบรนด์ให้ประโยชน์หรือมอบคุณค่าอะไรให้ลูกค้า (หรือผู้รับสาร)

(4) นำข้อ (2) + (3) และพัฒนาเนื้อความพร้อมเก็บรายละเอียดข้อเนื้อความที่ใช้ในการสื่อสาร โดยใส่เทคนิคการการเขียนรูปแบบต่างๆ เข้ามาด้วย (เช่น การใช้คำดึงดูด การใช้คำซ้ำ การใช้คำเฉพาะเจาะจง การใช้คำอุปมาอุปมัย หรือใช้คำตรงกันข้าม) และค่อยมาเก็ยรายละเอียดเนื้อความ


ข้อความแบบไหนที่ 'ดี' สำหรับการเขียนแบบจับกระแส


ตัวอย่างการคิด (ตัวอย่างที่ 1) 

(1) การระบุกลุ่มผู้รับสารที่ชัดเจน: กลุ่มผู้มีมรดกและชอบดูละคร

(2) เสาะหาและจับกระแส: กระแสละครเลือดข้นคนจาง

(3) ชัดเจนเรื่อง'สิ่งที่ต้องการสื่อ': ต้องการให้ความรู้เรื่องมรดก 

(4) นำข้อ (2) + (3) และพัฒนาเนื้อความพร้อมเก็บรายละเอียดข้อเนื้อความ: "นาย (ชื่อตัวละคร) ตายใครได้มรดก ได้เท่าไหร่บ้าง"


ตัวอย่างการคิด (ตัวอย่างที่ 2) 

(1) การระบุกลุ่มผู้รับสารที่ชัดเจน: กลุ่มชอบดูละคร

(2) เสาะหาและจับกระแส: ละครบุปเพสันนิวาส

(3) ชัดเจนเรื่อง'สิ่งที่ต้องการสื่อ': เรื่องบุฟเฟ่ต้องบาบีกอน 

(4) นำข้อ (2) + (3) และพัฒนาเนื้อความพร้อมเก็บรายละเอียดข้อเนื้อความ: "ที่ไหนรับส่งของผ่านมิติ จะส่งกระทะไปให้ออเจ้า การะเกด"


ตัวอย่างการคิด (ตัวอย่างที่ 3) 

(1) การระบุกลุ่มผู้รับสารที่ชัดเจน: กลุ่มชอบดูละครและช๊อปปิ้งออนไลน์

(2) เสาะหาและจับกระแส: ละครบุปเพสันนิวาส

(3) ชัดเจนเรื่อง'สิ่งที่ต้องการสื่อ': ต้องการขายลิปสติกสีต่างๆ

(4) นำข้อ (2) + (3) และพัฒนาเนื้อความพร้อมเก็บรายละเอียดข้อเนื้อความ: "ลิปสติกแบบการะเกด สวยเป๊ะเหมือนแม่หญิงด้วยงบ 300 บาท"


ลองทำดู 

(1) กลุ่มผู้รับสารที่ชัดเจน: ______________________________________________________________

(2) เสาะหาและจับกระแส:  "___________________________________________"

(3) ชัดเจนเรื่อง'สิ่งที่ต้องการสื่อ': ______________________________________________________

(4) นำข้อ (2) + (3) และพัฒนาเนื้อความพร้อมเก็บรายละเอียดข้อเนื้อความ:  ลองสัก 20 ประโยค

(5) เลือกข้อความที่ใช่มากที่สุดที่มีเทคนิคคำซ้ำ (จาก (5)): _____________________________________


ข้อควรระวังสำหรับการพัฒนาเนื้อหาตามกระแส


เทคนิคเพิ่มเติม: การเอาของเก่ามาใช้ซ้ำ

ถ้าจะเอาเนื้อหาเก่ามาปรับปรุงใหม่โดยเอากระแสมาเล่นสามารถทำได้ โดยมีขั้นตอนและแนวคิดดังนี้


(1) การระบุกลุ่มผู้รับสารที่ชัดเจน

(2) เสาะหาและจับกระแส

(3) ระบุหัวหัวข้อหรือเนื้อหาเก่า

(4) นำข้อ (2) + (3) และพัฒนาเนื้อความใหม่


ตัวอย่างการคิดแบบนำของเก่ามาใช้ (ตัวอย่างที่ 1) 

(1) การระบุกลุ่มผู้รับสารที่ชัดเจน: กลุ่มชอบเสพข่าวดราม่า

(2) เสาะหาและจับกระแส: เพื่อถามว่าอายหรือไม่ จบปริญญาตรีแต่มาขายขนมเบื้อง

(3) ระบุหัวหัวข้อหรือเนื้อหาเก่า: ค่าใช้จ่ายสาวบ้านนา VS สาวเมืองกรุง

(4) นำข้อ (2) + (3) และพัฒนาเนื้อความพร้อมเก็บรายละเอียดข้อเนื้อความ: "ขายขนมเบื้องในต่างจังหวัด VS ทำงานออฟฟิสในเมือง"


ตัวอย่างการคิดแบบนำของเก่ามาใช้ (ตัวอย่างที่ 2) 

(1) การระบุกลุ่มผู้รับสารที่ชัดเจน: กลุ่มชอบเสพข่าวดราม่า

(2) เสาะหาและจับกระแส: มรดกเลือดปมการฆาตกรรมหลังแบ่งมรดก

(3) ระบุหัวหัวข้อหรือเนื้อหาเก่า: ค่าใช้จ่ายสาวบ้านนา VS สาวเมืองกรุง

(4) นำข้อ (2) + (3) และพัฒนาเนื้อความพร้อมเก็บรายละเอียดข้อเนื้อความ: "ใช้เงินมรกดต่างจังหวัด VS ใช้เงินมรดกในเมืองกรุง"


ตัวอย่างการคิดแบบนำของเก่ามาใช้ (ตัวอย่างที่ 3) 

(1) การระบุกลุ่มผู้รับสารที่ชัดเจน: กลุ่มที่มีความสนใจด้านการเงิน/หุ้น

(2) เสาะหาและจับกระแส: มรดกเลือดปมการฆาตกรรมหลังแบ่งมรดก

(3) ระบุหัวหัวข้อหรือเนื้อหาเก่า: มือใหม่อยากเล่นหุ้นทำอย่างไร

(4) นำข้อ (2) + (3) และพัฒนาเนื้อความพร้อมเก็บรายละเอียดข้อเนื้อความ: "รวยด้วยหุ้นไม่ต้องลุ้นมรดก"

หากมีข้อคิดเห็นหรือเสนอแนะใดๆ ทักมาคุยกัหรือแอดมาเป็นเพื่อนกันที่ https://www.facebook.com/kmuttentrepreneurship/ 


หลักสูตรการจัดการการเป็นผู้ประกอบการเชิงนวัตกรรม (#EPM) เป็นหลักสูตรภายใต้การกำกับดูแลของบัณฑิตวิทยาลัยการจัดการและนวัตกรรม (#GMI) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (#KMUTT)


สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ (02) 470-9795-6, 084-676-5885

LINE : @GMIKMUTT

หรือ ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://gmi.kmutt.ac.th/master_program

สนใจสมัครได้ที่ https://bit.ly/GMI_Apply 

#GMI #KMUTT #EPM

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง

สำหรับท่านที่ต้องการต่อยอดความรู้ระดับ 'ปริญญาโท' ด้านความเป็นผู้ประกอบการนวัตรกรรมสามารถคลิกที่นี่เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม

เพิ่มเราเป็นเพื่อนในเฟสบุ๊คเพื่อรับข่าวสารและข้อมูลต่อยอดความเข้าใจ

[กดที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อน]

เรื่องที่น่าสนใจอื่น